หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2566

คำอธิฐานจิตประจำวัน แผ่เมตตา วัดพระธรรมกาย


คำอธิษฐานจิต บวชสามเณรล้านรูป

#คำอธิษฐานจิตร่วมบุญบวชสามเณรล้านรูป
ด้วยบุญกุศล ที่ข้าพเจ้าตั้งใจ ร่วมบุญบวชสามเณรล้านรูป เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา และวิชชาธรรมกาย เพราะบุญนั้น ขอให้ข้าพเจ้า เป็นผู้มีความสะอาดบริสุทธิ์ หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ เอาชนะอุปสรรคทั้งปวง ให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุขัยยืนยาว ได้สร้างบารมีไปนานๆ
ให้เข้าถึงฐานะอันประเสริฐ ที่เลิศทั้งมนุษย์สมบัติ ทิพยสมบัติ และนิพพานสมบัติ มีดวงปัญญาสว่างไสว เป็นบัณฑิตนักปราชญ์ ฉลาดในศาสตร์ทั้งปวง ให้รู้แจ้งเห็นแจ้ง แทงตลอดทั้งทางโลกและทางธรรม บาปกรรมอย่าได้มากล้ำกราย ให้สามารถขจัดมารร้าย ทั้งวิบัติบาปศักดิ์สิทธิ์ วิบากกรรมวิบากมาร ให้มลายหายสูญ บุญศักดิ์สิทธิ์เกื้อกูล ให้ชีวิตบริบรูณ์ตลอดไป
ให้บรรลุวิชชาธรรมกาย สามารถระลึกชาติได้ ตั้งแต่ยังเยาว์วัย ให้ได้บรรพชาอุปสมบท แตกฉานทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เทศนา และวิชชาธรรมกาย ได้บวชสร้างบารมี ตราบชีวีหมดสิ้นอายุขัย ครั้นละโลกไป ให้ได้ไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตพระบรมโพธิสัตว์ ผู้มุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม
เมื่อยังต้องเวียนว่ายตายเกิด ถือกำเนิดมาเป็นมนุษย์ ให้ได้เพศบริสุทธิ์ บังเกิดในตระกูลสัมมาทิฐิ ในครอบครัวธรรมกาย ให้ถึงพร้อมด้วย ที่สุดแห่งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ที่สุดแห่งลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และมรรคผลนิพพาน มีสมบัติมหาศาล สมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง บังเกิดขึ้นไปทุกภพทุกชาติ
ธรรมอันใด ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี สด จนฺทสโร พระผู้ปราบมาร และคุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ท่านได้บรรลุ ขอจงบรรลุธรรมนั้น ได้สำเร็จวิชชา3 วิชชา8 อภิญญา6 ปฏิสัมภิทาญาณ4 วิโมกข์8 และจรณะ15 อย่างสะดวกสบาย มีธรรมะสว่างไสว ได้สร้างบารมี ร่วมกับมหาปูชนียาจารย์ ไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม
ขอความปรารถนา ของข้าพเจ้าทั้งปวงนี้ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมกาย ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ จงทุกประการเทอญ นิพพานะ ปัจจะโย โหตุฯ

ทำวัตรเย็น วัดพระธรรมกาย

บทสวดมนต์ทำวัตรเย็น 

      ขณะที่ประธานกำลังจุดเทียน ธูป บูชาพระรัตนตรัย ให้ทุกคน สำรวมใจ นั่งคุกเข่าประนมมือขึ้นพร้อมกัน ครั้นประธานกล่าวคำ นมัสการนำ ทุกคนก็ว่าตามโดยพร้อมเพรียงกันอย่างชัดเจน ไม่ค่อยหรือดังเกินไป พร้อมทั้งกำหนดนึกถึงพระพุทธรูปตามวิธีที่กล่าวมาแล้ว ควบคู่กันไปด้วย       

 

๑. คำบูชาพระโดยพิสดาร

       โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม,  สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,  ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง,    อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ,  สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ,  ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา,  อิเม สักกาเรทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ,  อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ.  

                                            

๒. คำนมัสการ

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ. (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ. (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ. (กราบ)

 

๓.ปุพพะภาคะนะมะการะ

(กล่าวนำ) หันทะทานิ มะยังตัง ภะคะวันตัง วาจายะ อะภิคายิตุง, ปุพพะภาคะนะมะการัญเจวะ
พุทธานุสสะตินะยัญจะ กะโรมะ เส.

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ ครั้ง)

             บทสวด

๔. พุทธานุสสะติ

      ตัง โข ปะนะ ภะคะวันตัง เอวัง กัลยาโณ กิตติสัทโท อัพภุคคะโต, อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ,    วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู,   อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ.     

            

๕. พุทธาภิคีติ

(กล่าวนำ - หันทะ มะยัง พุทธาภิคีติง กะโรมะ เส.)

     พุทธะวาระหันตะวะระตาทิคุณาภิยุตโต
สุทธาภิญาณะกะรุณาหิ สะมาคะตัตโต 
โพเธสิ โย สุชะนะตัง กะมะลังวะ สูโร 
วันทามะหัง ตะมะระณัง สิระสา ชิเนนทัง ฯ
พุทโธ โย สัพพะปาณี นัง
สะระณัง เขมะมุตตะมัง
ปะฐะมานุสสะติฏฐานัง
วันทามิ ตัง สิเรนะหัง ฯ
พุทธัสสาหัสมิ ทาโส วะ
พุทโธ เม สามิกิสสะโร
พุทโธ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ
วิธาตา จะ หิตัสสะ เม ฯ
พุทธัสสาหัง นิยยาเทมิ
สะรีรัญชีวิตัญจิทัง
วันทันโตหัง จะริสามิ
พุทธัสเสวะ สุโพธิตัง ฯ
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง
พุทโธ เม สะระณัง วะรัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ 
วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน ฯ
พุทธัง เม วันทะมาเนนะ  
ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ
สัพเพปิ อันตะรายา เม
มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา ฯ  


















(หมอบกราบว่า)

กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,
  พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
  พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ.

 

๖. ธัมมานุสสะติ

(กล่าวนำ - หันทะ มะยัง ธัมมานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส.)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก, โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญูหีติ.


๗. ธัมมาภิคีติ

(กล่าวนำ - หันทะ มะยัง ธัมมาภิคีติง กะโรมะ เส.)

     สวากขาตะตาทิคุณะโยคะวะเสนะ เสยโย
โย มัคคะปากะปะริยัตติวิโมกขะเภโท
ธัมโม กุโลกะปะตะนา ตะทะธาริธารี 
วันทามะหัง ตะมะหะรัง วะระธัมมะเมตัง
  ธัมโม โย สัพพะปาณีนัง
สะระณัง เขมะมุตตะมัง
  ทุุติยานุสสะติฏฐานัง
วันทามิ ตัง สิเรนะหัง ฯ
  ธัมมัสสาหัสมิ ทาโส วะ
ธัมโม เม สามิกิสสะโร
  ธัมโม ทุกขัสสะ ฆาตา จะ
วิธาตา จะ หิตัสสะ เม ฯ
  ธัมมัสสาหัง นิยยาเทมิ
สะรีรัญชีวิตัญจิทัง
  วันทันโตหัง  จะริสสามิ 
ธัมมัสเสวะ สุธัมมะตัง ฯ
  นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง
ธัมโม เม สะระณัง วะรัง
  เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ 
วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน ฯ
  ธัมมัง เม วันทะมาเนนะ
ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิทะ
  สัพเพปิ อันตะรายา เม
มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา ฯ


















(หมอบกราบว่า)

 กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,
  ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
   ธัมโม ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม.

 

๘. สังฆานุสสะติ 

(กล่าวนำ - หันทะ มะยัง สังฆานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส.)

       สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ , อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ , ญายะปะฏิปันโน  ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ , สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ , ยะทิทัง  จัตตาริ  ปุริสะยุคานิ  อัฏฐะ  ปุริสะปุคคะลา , เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ , อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย, อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ

 

๙. สังฆาภิคีติ

 (กล่าวนำ - หันทะ มะยัง สังฆาภิคีติง กะโรมะ เส.)

      สัทธัมมะโช สุปะฏิปัตติคุณาทิยุตโต
โยฏฐัพพิโธ อะริยะปุคคะละสังฆะเสฏโฐ
สีลาทิธัมมะปะวะราสะยะกายะจิตโต
วันทามะหัง ตะมะริยานะ คะณัง สุสุทธัง ฯ
     สังโฆ โย สัพพะปาณีนัง
สะระณัง เขมะมุตตะมัง
     ตะติยานุสสะติฏฐานัง 
วันทามิ ตัง สิเรนะหัง ฯ
     สังฆัสสาหัสมิ ทาโส วะ
สังโฆ เม สามิกิสสะโร
     สังโฆ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ 
วิธาตา จะ หิตัสสะ เม ฯ 
     สังฆัสสาหัง นิยยาเทมิ
สะรีรัญชีวิตัญจิตัง
     วันทันโตหัง  จะริสสามิ
สังฆัสโสปะฏิปันนะตัง ฯ
     นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง
สังโฆ เม สะระณัง วะรัง
     เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน 
     สังฆัง เม วันทะมาเนนะ
ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ
     สัพเพปิ อันตะรายา เม 
มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา ฯ


















(หมอบกราบว่า)

  กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,
   สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,
    สังโฆ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง,
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ.

(แล้วนั่งพับเพียบ)

 

๑๐. อุททิสสะนะคาถา

(กล่าวนำ - หันทะ มะยัง อุททิสสะนะคาถาโย ภะณามะ เส.)

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ
อุปัชฌายา คุณุตตะรา
อาจาริยูปะการา จะ
มาตาปิตา จะ ญาตะกา ปิยา มะมัง
สุริโย จันทมาิ ราชา
คุณะวันตา นะราปิจะ
พรัหมะมารา จะ อินทา จะ
โลกะปาลา จะ เทวะตา
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ
มัชฌัตตา เวริกาปิจะ
สัพเพ สัตตา สุขีโหนตุ
ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
สุขังจะติวิธัง เทนตุ
ขิปปัง ปาเปถะโว มะตังฯ
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ
อิมินาอุททิเสนะ จะ
ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ
ตัณหุปาทานะเฉทะนัง
เย สันตาเน หินา ธัมมา
ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
นัสสันตุสัพพะทา เยวะ
ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
อุชุจิตตัง สะติปัญญา
สัลเล โข วีริยัมหินา
มาราละภันตุ โนกาสัง
กาตุญจะ วีริเยสุ เม
พุทโธ ทีปะวะโร นาโถ
ธัมโม นาโถวะรุตตะโม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ
สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
เตโสตตะมานุภาเวนะ
มาโรกาสังละภันตุมาฯ

 




















๑๑.อะภิณหะปัจจะเวกขะณะปาฐะ

(กล่าวนำ-หันทะ มะยัง อะภิณหะปัจจะเวกขะณะปาฐัง ภะณามะ เส.)

ชะราธัมโมมหิ ชะรัง อะนะตีโต          เรามีความแก่เป็นธรรมดา ยังไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้      

พยาธิธัมโมมหิ พยาธิง อะนะตีโต       เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา ยังไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้

มะระณะธัมโมมหิ มะระณัง อะนะตีโต      เรามีความตายเป็นธรรมดา ยังไม่ล่วงพ้นความตายไปได้

สัพเพหิ เม ปิเยหิ มะนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว   เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ด้วยกันหมดทั้งสิ้น

กัมมัสสะโกมหิ กัมมะทายาโท     เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม

กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ     มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

กัมมะปะฏิสะระโณ    มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย

ยัง กัมมัง กะริสสามิ     เราทำกรรมใดไว้

กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา   ดีหรือชั่วก็ตาม

ตัสสะ ทายาโทภะวิสสามิ     เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

 

จบทำวัตรเย็น